::: ที่ตั้งโครงการ :::
ซอย โชคชัย 4 – 20 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
พิกัด google map : 13.806964, 100.606589 |
|
แผนที่จากทางโครงการ |
|
The Freedom Townhome นาคนิวาส-โชคชัย 4 ตั้งอยู่ในโซนลาดพร้าว-ประดิษฐ์มนูธรรม ทำเลดังกล่าวเป็นแหล่งที่พักอาศัยที่ได้รับความนิยมเนื่องจากว่าเป็นทำเลที่เชื่อมต่อเข้าออกเมืองสะดวก โดยเฉพาะผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานในเมืองย่านลาดพร้าว, รัชดาภิเษก, พระราม 9 และสุขมวิท ตัวโครงการเองตั้งอยู่ระหว่างถนนโชคชัย 4 และถนนนาคนิวาส ที่นับว่าเป็นเส้นรอง สาเหตุที่ผมกล่าวว่าเดินทางสะดวกเพราะสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้โดยตรง ทั้งลาดพร้าวและประดิษฐ์มนูธรรม ทั้งยังมีซอยลัดเลาะหลีกเลี่ยงรถติดได้อย่างหลากหลาย ทะลุไปยังถนนรัชดาภิเษก, พหลโยธิน และเกษตร-นวมินทร์ ได้อย่างง่ายดาย อย่างที่เราทราบกันดีว่าช่วงเวลาเร่งด่วนโซนดังกล่าวมีปริมาณจราจรที่หนาแน่นมากทีเดียว การมีทางลัดเลาะจึงถือว่าช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมเรื่องการเดินทางได้โดยตรงคือทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ที่คู่ขนานอยู่ด้านบนถนนประดิญฐ์มนูธรรม การใช้งานในฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปยังพระราม 9 – เอกมัย และสามารถใช้เชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชต่อยอดการเดินทางไปได้ทุกที่ภายในกรุงเทพฯ ยกตัวอย่างผมเดินทางจากย่านธุรกิจใจกลางเมืองสาทร ไปยังตัวโครงการผมใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ส่วนขาออกมุ่งหน้าไปยังถนนกาญจนาภิเษกถนนวงแหวนที่เหมาะสำหรับการเดินทางข้ามโซนในระยะไกล |
|
การเดินทางมายังโครงการจริงๆ แล้วมีหลายเส้นทาง แต่ผมขอยกตัวอย่างเส้นทางหลักๆ 2 เส้นทางคือจากถนนลาดพร้าวและถนนประดิษฐ์มนูธรรม
- จากถนนลาดพร้าว วิ่งเข้าเส้นโชคชัย 4 มุ่งตรงมาจนถึงบริเวณกองบังคับการปราบปราม หรือเรียกกันสั้นๆว่ากองปราบ เข้าซอยโชคชัย 4 – 20 วิ่งตรงไปตามทางทางสุดซอยจนถึงตัวโครงการ
- จากถนนประดิษฐ์มนูธรรม ตรงนี้สามารถแบ่งเข้าได้อีก 2 ทาง ทั้งจากฝั่งถนนสังคมสงเคราะห์ หรือเข้าทางซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 เข้าสู่ถนนนาคนิวาส จากนั้นแนะนำให้ใช้ซอยนาคนิวาส 37 ขับเข้าไปในซอยจนเห็น 7-11 ทางซ้ายให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยดังกล่าว มุ่งไปสุดทางเจอทางบังคับเลี้ยวซ้ายและขวาตามลำดับก็จะถึงตัวโครงการ
|
|
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากแผนภาพด้านบน จะเห็นว่าตัวในอนาคตตัวโครงการจะถูกล้อมรอบด้วยเส้นทางเดินรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าที่เปิดใช้งานแล้วคือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีลาดพร้าว ส่วนในอนาคตจะมีเปิดใช้งานเพิ่มอีกถึง 3 สาย ได้แก่
- รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
- รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี
โดยโครงการที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างที่สุดคือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โดยตามแผนงานล่าสุดน่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563 เส้นนี้มีข้อดีคือเชื่อมต่อกับสาย MRT เดิมใช้เข้าเมืองชั้นในได้สะดวก ส่วนสายอื่นๆทั้งสีเทาและสายสีน้ำตาล ยังอยู่ในช่วงวิเคราะห์ EIA อาจต้องรอกันยาวสักหน่อย
ในส่วนของรถสาธารณะรูปแบบอื่น เนื่องจากว่าโครงการอยู่ในซอยที่มีความเงียบสงบไม่พลุกพล่าน จึงไม่ได้มีรถสาธารณะผ่านเข้าไปด้านในซอยสักเท่าไร แต่ด้วยการที่เราอยู่ในยุคดิจิตอล การเรียกหารถสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือดูจะเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับลูกบ้านในโครงการ The Free
|
|
ภาพมุมสูงบริเวณโครงการ ทำเลดังกล่าวเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมด โดยข้อดีคือเป็นบ้านพักรูปแบบของบ้านเดี่ยวเกือบทั้งหมดจึงได้สังคมที่ค่อนข้างมีคุณภาพ ไม่แออัด และยังคงมีต้นไม่สีเขียวขึ้นโดยรอบโครงการเสริมบรรยากาศความสงบร่มรื่น |
|
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
- ถนนนาคนิวาส : 1.0 กม.
- ถนนโชคชัย 4 : 1.0 กม.
- ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 1.8 กม.
- ถนนลาดพร้าว : 2.4 กม.
- ถนนเกษตร-นวมินทร์ : 4.2 กม.
- ห้าแยกลาดพร้าว : 6.0 กม.
- แยกลาดพร้าว 86 : 3.2 กม.
- แยกเกษตร : 7.8 กม.
- แยกต่างระดับเกษตร-นวมินทร์ : 4.2 กม
|
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ห้างสรรพสินค้าและตลาด
- Central Eastville : 1.6 กม.
- Tesco Lotus : 2.1 กม.
- Homepro : 2.5 กม.
- Crystal Park : 2.3 กม.
- CDC : 3.3 กม.
- Big C : 3.7 กม.
- The Walk : 4.4 กม.
- นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว : 5.4 กม.
- บุญถาวร : 5.5 กม.
- ตลาดโชคชัย 4 : 2.2 กม.
- ตลาดหัวมุม : 4.4 กม.
- ตลาดจตุจักร : 8.3 กม.
ยูเนี่ยมมอลล์ : 5.9 กม.
สถานศึกษา
- รร.สตรีวิทยา 2 : 3.5 กม.
- ม.ราชภัฏจันทรเกษม : 4.8 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ : 7.9 กม.
โรงพยาบาล
- รพ.เปาโล โชคชัย 4 : 1.5 กม.
- Central ลาดพร้าว : 6.9 กม.
|
::: การเดินทาง :: |
|
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางในวันนี้ ผมมาจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จากนั้นลงทางด่วนที่ทางออกหมายเลข 9 ถนนลาดพร้าว แล้วเลี้ยวเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ มุ่งตรงไปจนเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนนาคนิวาส จนถึงซอยนาคนิวาส 29 จากนั้นวิ่งไปตามทางบังคับจนถึงโครงการโดยมีภาพประกอบการเดินทางดังนี้ครับ
สรุปการเดินทาง : ทางด่วนรามอินทรา > ถนนสังคมสงเคราะห์ > ถนนนาคนิวาส > ซอนาคนิวาส 29 |
The Freedom Townhome |
|
เริ่มจากด้านบนทางด่วนรามอินทรา ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อลงที่ทางออก 9 |
|
ลงทางด่วนตรงจุดนี้ |
|
วิ่งเลียบทางด่วนไปตามป้ายรามอินทรา |
|
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสังคมสงเคราะห์ ทางลัดไปยังถนนนาคนิวาส |
|
เข้าไปตามถนนสังคมสงเคราะห์ |
|
ถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนนาคนิวาส |
|
ขับไปตามถนนนาคนิวาส โดยสังเกตทางซ้ายที่เป็นเลขซอย ตอนนี้เราเริ่มกันที่ซอยนาคนิวาส 1 |
|
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนาคนิวาส 29 อันที่จริงแล้วผมอยากแนะนำให้เข้าที่ซอยนาคนิวาส 37 เพราะหลังจากที่ผมได้ศึกษาทำเลเพิ่มเติม ซอย 37 จะมีความสะดวกมากกว่า |
|
ขับเข้าไปตามทางบังคับเริ่มจากเลี้ยวขวา |
|
จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่บริเวณร้านอาหาร สาม-มะ |
|
เจอสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย |
|
จากนั้นจะเจอลานกว้างทางซ้ายมือ สุดทางให้เลี้ยวซ้าย |
|
จากนั้นเลี้ยวขวาตามทางบังคับอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย |
|
ถึงแล้วครับโครงการ The Freedom Townhome นาคนิวาส-โชคชัย 4
::: บริเวณโครงการ ::: |
|
เรามาเดินสำรวจบริเวณหน้าโครงการกันครับ |
|
ถนนหน้าโครงการเป็นถนนสาธารณะ กว้าง 2 เลน รถวิ่งสวนกันได้ |
|
ตัวโครงการอยู่ภายในซอยโชคชัย 4 – 20 ช่วงแยก 4 – 6 – 8 ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยดั้งเดิม 2-3 ชั้น |
|
บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนอยู่อาศัย |
|
ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นแนวกำแพงยาว ไม่ได้เป็นทางเข้าออกของเพื่อนบ้าน |
|
ภายในบ้านมีช่องจอดรถสำหรับ 2 คัน หากมีเพื่อนแวะมาเยี่ยมเยียนอาจจะจอดไว้หน้าบ้านฝั่งที่เป็นแนวกำแพงหญ้าเทียมก็ได้ เพราะอย่างที่บอกว่าซอยนี้รถผ่านเข้าออกน้อยและกว้างพอให้รถวิ่งผ่านได้แบบไม่ลำบาก |
|
เดินมาจนถึงฝั่งโชคชัย 4 – 20 แยก 4 |
|
ข้างโครงการเป็นบ้านพักอาศัยเช่นกัน |
|
ทางซ้ายซอยโชคชัย 4 – 20 แยก 4 ใช้สำหรับออกไปยังถนนโชคชัย 4 |
|
เรากลับไปยังโครงการเพื่อชมบ้านตัวอย่างกันครับ |
|
The Freedom เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิตเพียงแค่ 8 ยูนิต โดยยูนิตทางซ้ายสุดเป็นยูนิตพิเศษบ้านเดี่ยว 3 ชั้น |
|
ตัวบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นใช้สีพื้นหลักเทา-ขาว และตัดด้วยลายไม้สร้างบรรยากาศแบบรีสอร์ท |
::: บ้านตัวอย่าง ::: |
|
เราไปดูบ้านตัวอย่างกันครับ สำหรับบ้านตัวอย่างเป็นแปลง TH1 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 38.06 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 272.67 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน |
|
รั้วบ้านเหล็กบานเฟี้ยมสีเทา ตกแต่งด้วยระแนงลายไม้ |
|
ลานจอดรถสำหรับ 2 คัน จอดเป็นรถไซส์ใหญ่ 1 คัน ไซส์เล็ก 1 คัน |
|
ส่วนรั้วที่ติดกับเพื่อนบ้าน เป็นระแนวเหล็กสีเทา เพิ่มบรรยากาศสีเขียวด้วยแผ่นหญ้าเทียม |
|
บ้านแปลงมุมมีพื้นที่สวนข้างบ้าน เชื่อมต่อไปยังลานซักล้างด้านหลัง |
|
ทางเดินข้างบ้านปูด้วยวัสดุไม้สังเคราะห์ WPC ให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง แต่มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อแดดและฝน ไม่ยืดหรือหดตัว เหมาะสำหรับใช้ภายนอก |
|
จากสวนข้างบ้าน มีช่องทางเดินเชื่อมต่อเข้าด้านในด้วยประตูบานเลื่อน |
|
ถัดจากส่วนที่ปูพื้นไม้ เทด้วยพื้นคอนกรีต ตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นจัดสวนได้ตามสไตล์ผู้อยู่อาศัย |
|
|
ลานด้านหลังบ้านขนาดใหญ่ปูพื้นด้วยหญ้าเทียมในบ้านตัวอย่าง แต่หากเป็นบ้านแปลงมาตรฐานจะให้เป็นพื้นเทคอนกรีต |
|
มองมุมสูงด้านบนเห็นว่าชั้น 3 ด้านหลังมีระเบียง |
|
ประตูหลังบ้านเชื่อมต่อไปยังห้องครัว และหน้าต่างหลังบ้าน ให้แสงสว่างไปยังโถงบันได |
|
ประตูทางเข้าบ้านมือจับก้านโยกวัสดุ uPVC ลายไม้ ถูกออกแบบให้หันหน้าออกทางขวา เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัย โดยผนังด้านในมีลูกเล่นตกแต่งด้วยระแนงไม้ให้บรรยากาศความเป็นบ้านในสไตล์รีสอร์ท |
|
หน้าต่างหน้าบ้านช่องแสงขนาดใหญ่ ตรงนี้ให้วัสดุอลูมิเนียมที่เคลือบด้วยสีทรายซาฮาร่า รวมถึงกระจกก็เป็นแบบสีเขียวตัดแสงที่มีความหนาเป็นพิเศษ นอกจากจะมีความสวยงามหรูหราแล้ว ยังให้คุณสมบัติที่ทนทาน เก็บเสียงได้เป็นอย่างดี |
|
เปิดประตูบ้านเข้ามาส่วนแรกคือห้องนั่งเล่น จุดเด่นอย่างแรกที่สัมผัสได้คือความโปร่งสบายด้วยความสูงของฝ้าเพดานกว่า 3 เมตร พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ตรงบริเวณหน้าบ้าน และหน้ากว้างของบ้านขนาด 5 เมตร พื้นบ้านปูด้วยแกรนิตโต้ ผนังปูวอลล์เปเปอร์ โคมไฟดาวน์ไลท์หลอด LED ทั้งหลัง |
|
สำหรับบ้านตัวอย่างนี้ ทางโครงการบิลท์อินเฟอร์นิเจอร์ให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งหลังนี้เป็นหลังที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และมีแบบที่เป็นบ้านเปล่าในแปลงปกติด้วย ทางขวาเป็นประตูออกไปยังสวนข้างบ้าน |
|
มุมวางโซฟา มีความกว้างเพียงพอสำหรับโซฟาชุดใหญ่ หรือจะแบ่งเป็นมุมนั่งเล่น+มุมทำงานแบบบ้านตัวอย่างก็ลงตัวพอดี |
|
|
ขยับเข้าไปด้านเป็นส่วนรับประทานอาหาร เลือกใช้โต๊ะขนาด 4-6 ที่นั่งกำลังเหมาะ |
|
สำหรับห้องครัว เลือกใช้ประตูแบบบานเลื่อน เสริมความโปร่งให้แสงจากหลังบ้านสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านในตัวบ้านได้ ส่วนวัสดุใช้แบบผิวทรายซาฮาร่าเช่นกัน และในส่วนที่เป็นบานเลื่อนทุกจุดใช้วัสดุแบบเดียวกันนี้ทั้งหมด |
|
กำแพงตรงส่วนนี้ ถูกเว้นเอาไว้เพื่อให้ห้องครัวยิ่งโปร่งสบายมากขึ้น แต่ในมุมกลับกันทำให้ห้องครัวนี้เสียฟังก์ชั่นครัวปิดไป |
|
ทางโครงการบิลท์อินห้องครัวเป็นตัวอย่างในสไตล์ครัวฝรั่ง ใช้เป็นเตาไฟฟ้าและฮูดดูดควัน แต่ปกติตามเนเจอร์ของคนไทย มักจะไปต่อเติมครัวไทยเต็มรูปแบบไว้ที่ด้านหลังลานซักล้างอยู่แล้ว ห้องนี้อาจปรับเปลี่ยนเป็นห้องทานข้าวไปเลยก็ได้ |
|
ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวมีช่องบานเลื่อนให้แสง รวมถึงสามารถเปิดปิดเพื่อช่วยถ่ายเทอากาศได้อีกทาง |
|
อีกฝั่งใช้วางตู้เย็นและวางเคาน์เตอร์เตรียมอาหารได้อีกจุด |
|
ห้องน้ำชั้นล่างประตูลายไม้วัสดุพิเศษจาก SCG ทนทานสวยงาม |
|
พื้นห้องน้ำชั้นล่างปูด้วยแกรนิตโต้ ธรณีก่อด้วยหินอ่อนกันน้ำไหลไปยังตัวบ้านเวลาทำความสะอาดห้องน้ำ |
|
อ่างล้างหน้าวางบนเคาน์เตอร์หินอ่อน ใช้ของแบรนด์ Cotto บานกระจกเงาทรงกลม |
|
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นกัน |
|
ขึ้นไปชมด้านบนกันต่อครับ สังเกตที่ด้านข้างของขั้นบันไดมีการเจาะช่องฝั่งไฟ LED ให้แสงสว่างในช่วงกลางคืน ขึ้นลงได้อย่างปลอดภัย |
|
ระหว่างชั้นพักบันได ติดตั้งช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง วัสดุเดียวกันคือผิวทรายซาฮาร่า และมี 2 ช่องทางด้านบนที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ด้วย |
|
ตลอดทางเดินมีราวจับไม้ทรงกลมจับถนัดมือ |
|
สุดทางเดินตรงกับทางเข้าห้องนอนห้องแรก ซึ่งที่ชั้นสองมีห้องนอนเพียงห้องเดียวและนับเป็น Master Bedroom |
|
จากบันไดทางซ้ายของภาพคือห้องโถงชั้น 2 |
|
เข้าไปดูด้านในห้อง Master Bedroom สำหรับพื้นชั้น 2 และ ชั้น 3 จะปูด้วยพื้นไวนิลคลิ๊กล็อค ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าพื้นลามิเนตหรือกระเบื้องยางธรรมดา อายุการใช้งานยาวนานมาก ทนทาน ไม่ยืดหรือหดตัว |
|
ช่องทางเดินเข้าห้อง มีแนวกำแพงยื่นออกมา เหมาะสำหรับบิลท์อิน หรือ ฟิตอิน ตู้เก็บของแนวยาวดังในภาพ |
|
สำหรับห้องนอนนี้ทางโครงการวางเตียงให้ดูเป็นตัวอย่าง โดยคุมโทนวัสดุไม้เอาไว้ตามคอนเซปต์บ้านในสไตล์รีสอร์ท กำแพงฝั่งหัวเตียงที่เราเห็นเป็นการตกแต่งให้ดู เพื่อใช้งานด้านหลังเป็น walk-in closet จริงๆแล้วหากเราไม่ทำฟังก์ชั่นนี้ จะได้ห้องนอนหลักที่มีขนาดกว้างมาก เท่ากับหน้ากว้างบ้านคือ 5 เมตร |
|
ฝั่งปลายเตียงสามารถบิลท์อินชั้นวางทีวีขนาดใหญ่ เหลือพื้นที่ด้านข้างพอให้วางโต๊ะทำงานได้อีกตัว |
|
ในส่วนของความสูงฝ้าเพดาน สูง 3 เมตรกว่าเช่นกัน |
|
หน้าต่างบานเลื่อนผิวทรายซาฮาร่า กระจกเขียวตัดแสง เพิ่มช่องแสงด้านข้าง หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Master Bedroom จึงไม่มีระเบียง เนื่องจากว่าทางผู้ออกแบบต้องการให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างเกิดประโยชน์ที่สุด ซึ่งในส่วนของการก่อสร้างพื้นที่ในบ้านเยอะแบบนี้จะมีต้นทุนที่สูงกว่าแบบมีระเบียง |
|
เราไปดู walk-in closet ด้านหลังกันครับ |
|
|
ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินขนาดใหญ่ ได้ถึง 2 ตู้ และเว้นช่องตรงกลางสำหรับทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง |
|
ห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom |
|
ห้องน้ำแบ่งแยกโซนแห้งโซนเปียก ขนาดกว้างมาก มีการตกแต่งทั้งลายหินและลายไม้ได้อย่างลงตัว |
|
|
อ่างล้างหน้า Cotto วางบนเคาน์เตอร์ก่อผิวหินอ่อน ด้านหลังตกแต่งด้วยกระเบื้องลายโมเสคซ่อนไฟดูหรูหรา |
|
บานกระจกเงาซ่อนช่องเก็บของด้านหลัง เก็บอุปกรณ์ได้เพียบ |
|
|
สำหรับโถสุขภัณฑ์เลือกใช้ของ Hafele ด้วยเหตุผลในเรื่องของดีไซน์ที่เข้ากับการตกแต่งสไตล์รีสอร์ทของห้องน้ำห้องนี้ |
|
ส่วนเปียกอาบน้ำติดตั้งฉากอาบน้ำแบบ Frameless กระจกนิรภัย พร้อมฝักบัว 2 ระบบ Rain Shower และฝักบัวสายอ่อน พร้อมที่วางสบู่ |
|
มุมทางด้านในห้องน้ำสำหรับบ้านแปลงมุมมีการติดตั้งบานกระจกขนาดใหญ่เพื่อให้ความโปร่งสบายภายในห้องน้ำ ซึ่งฝั่งตรงข้ามที่เป็นบ้านข้างๆนั้น จะไม่มีหน้าต่างหรือพูดง่ายๆว่า ไม่มีองศาใดที่สามารถมองเห็นด้านในห้องน้ำได้ |
|
เงยหน้ามองด้านบน เห็นช่องเปิดโล่งที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำชั้น 3 และหลังคาก็เว้นเป็นช่องแสงกระจกฝ้าที่ให้แสงส่องผ่านมาด้านล่างได้อีกทาง |
|
กลับมาที่บริเวณห้องโถงชั้น 2 พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่มีความอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน |
|
เรามาดูตัวอย่างที่โครงการวางเฟอร์ฯให้ดูเป็นห้องนั่งเล่น ผนังฝั่งบันไดบิลท์อินเป็นช่องวางของหรือตู้โชว์ |
|
|
แสงสว่างของโถงนั่งเล่นตรงนี้ มีช่องทางหลักจากหน้าต่างบานเลื่อนทางฝั่งหลังบ้าน และหน้าต่างเสริมทางซ้ายอีกบาน สามารถเปิดรับลมได้ทั้งสองบาน |
|
ภาพรวมห้องโถงอีกหนึ่งภาพ จากนั้นเราจะขึ้นไปดูชั้น 3 กันต่อครับ |
|
บันไดทางขึ้นชั้น 3 |
|
มองย้อนกลับมายังบริเวณชั้นพักบันได เห็นช่องแสงที่มีอยู่สองช่อง ช่องล่างสามารถเปิดปิดได้ ส่วนช่องบนเป็นบานฟิกซ์ทรงสูงรับแสงได้มาก |
|
|
|
เรามาเริ่มที่ห้องนอนตำแหน่งหลังบ้านก่อนครับ |
|
สำหรับห้องนอนนี้ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูสำหรับลูกสาว |
|
|
เหลือพื้นที่ให้วางเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานอย่างตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ สำหรับเขียนหนังสือทำการบ้านได้อีกด้วย |
|
สำหรับห้องนอนห้องนี้มีความพิเศษคือ พื้นที่ระเบียงออกมารับลมหลังบ้านได้ |
|
กลับไปที่โถงชั้น 3 เพื่อไปดูส่วนต่อไปกันครับ |
|
ชั้น 3 มีห้องน้ำห้องเดียวใช้งานร่วมกัน |
|
|
อ่างล้างหน้า Cotto วางบนเคาน์เตอร์ก่อหินอ่อน |
|
|
แนวกำแพงหลังสุขภัณฑ์บิลท์อินชั้นวางอุปกรณ์ พร้อมกระจกเงาที่สามารถเปิดเพื่อเก็บของได้ |
|
อีกฝั่งเป็นส่วนเปียกอาบน้ำ ติดตั้งฉากอาบน้ำพร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower และ ฝักบัวสายอ่อน |
|
หากจำได้ว่าที่ห้องน้ำชั้น 2 เปิดช่องโล่งขึ้นมาเชื่อมต่อกับห้องน้ำชั้นบน ตรงส่วนที่เป็นระแนงไม้อากาศสามารถถ่ายเทได้ และส่วนที่เป็นช่องแสงก็รับแสงจากธรรมชาติให้ห้องน้ำโปร่งสบาย |
|
สุดท้ายเราไปดูห้องนอนอีกห้องที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกันครับ |
|
ห้องนอนนี้แม้จะเป็นห้องนอนรอง แต่บอกเลยว่าพื้นที่ใช้งานใหญ่กว่าห้องนอนหลักกว่าหลายๆโครงการเลยล่ะครับ ด้วยหน้ากว้างถึง 5 เมตร พื้นที่ระหว่างปลายเตียงไปถึงชั้นวางทีวีกว้างมาก หากเป็นห้องนอนของเด็ก ก็สามารถใช้เป็นพื้นที่สันทนาการเด็กได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัด |
|
|
บ้านตัวอย่างวางเตียงไซส์ 5 ฟุต แต่จะอัพเป็น 6 ฟุตก็ไม่มีปัญหา |
|
|
มองย้อนกลับไปทางประตูเข้าห้อง ซ้ายขวาบิลท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ทั้งสองฝั่ง
::: ราคา ::: (มิ.ย.61)
แบบบ้าน Townhome : ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.99 ล้านบาท
สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุด
|
::: บทสรุปโครงการ :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Freedom Townhome นาคนิวาส – โชคชัย 4 มีที่ตั้งอยู่ในซอยที่เข้าออกได้จากทั้งถนนนาคนิวาสและโชคชัย 4 ห่างจากถนนใหญ่ลาดพร้าวประมาณ 2.4 กม. และถนนประดิษฐ์มนูธรรม 1.8 กม. เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย มีทางลัดเลาะไปออกถนนใหญ่ได้หลายทาง และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์, ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีฉลองรัช
ความอุดมสมบูรณ์ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับเส้นประดิษฐ์มนูธรรมจึงขออ้างอิงเส้นดังกล่าวเป็นหลัก โดยห้างที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ Central Eastville จากโครงการเข้าถึงใช้งานได้สะดวกมากๆ เพราะมีเส้นทางลัดไปเข้าด้านหลังห้างได้เลย ไม่ต้องไปเสี่ยงรถติดบนถนนใหญ่ นอกจากนั้นเส้นเลียบด่วนก็มีตัวเลือกอื่นอีกหลากหลายทั้ง Tesco Lotus, Homepro, Crystal Park และ CDC เป็นต้น ช่วงกลางคืนมีตลาดนัดหัวมุมแหล่งแฮงค์เอ้าท์ยามค่ำคืนที่กำลังได้รับความนิยม
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – ทำเลดังกล่าวเดินทางเข้าออกเมืองสะดวก โดยเฉพาะผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานในเมืองย่านลาดพร้าว, รัชดาภิเษก, พระราม 9 และสุขมวิท ตัวโครงการเองตั้งอยู่ระหว่างถนนโชคชัย 4 และถนนนาคนิวาส ที่นับว่าเป็นเส้นรอง สาเหตุที่ผมกล่าวว่าเดินทางสะดวกเพราะสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้โดยตรง ทั้งลาดพร้าวและประดิษฐ์มนูธรรม ทั้งยังมีซอยลัดเลาะหลีกเลี่ยงรถติดได้อย่างหลากหลาย ทะลุไปยังถนนรัชดาภิเษก, พหลโยธิน และเกษตร-นวมินทร์ ได้อย่างง่ายดาย อย่างที่เราทราบกันดีว่าช่วงเวลาเร่งด่วนโซนดังกล่าวมีปริมาณจราจรที่หนาแน่นมากทีเดียว การมีทางลัดเลาะจึงถือว่าช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นอีกปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมเรื่องการเดินทางได้โดยตรงคือทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ที่คู่ขนานอยู่ด้านบนถนนประดิญฐ์มนูธรรม การใช้งานในฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าไปยังพระราม 9 – เอกมัย และสามารถใช้เชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชต่อยอดการเดินทางไปได้ทุกที่ภายในกรุงเทพฯ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – เนื่องจากว่าโครงการอยู่ในซอยที่มีความเงียบสงบไม่พลุกพล่าน จึงไม่ได้มีรถสาธารณะผ่านเข้าไปด้านในซอยสักเท่าไร แต่ด้วยการที่เราอยู่ในยุคดิจิตอล การเรียกหารถสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือดูจะเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับลูกบ้านในโครงการ The Freedom ในอนาคตตัวโครงการจะถูกล้อมรอบด้วยเส้นทางเดินรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันรถไฟฟ้าที่เปิดใช้งานแล้วคือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือสถานีลาดพร้าว ส่วนในอนาคตจะมีเปิดใช้งานเพิ่มอีกถึง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง, รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงวัชรพล-ทองหล่อ, รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี โดยโครงการที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างที่สุดคือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โดยตามแผนงานล่าสุดน่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563 เส้นนี้มีข้อดีคือเชื่อมต่อกับสาย MRT เดิมใช้เข้าเมืองชั้นในได้สะดวก ส่วนสายอื่นๆทั้งสีเทาและสายสีน้ำตาล ยังอยู่ในช่วงวิเคราะห์ EIA อาจต้องรอกันยาวสักหน่อย
การออกแบบโครงการและวัสดุ – The Freedom Townhome เป็นโครงการขนาดเล็กที่มีบ้านพักอาศัยเพียงแค่ 8 ยูนิตเท่านั้น ที่พักอาศัยทำออกมาในรูปแบบของทาวน์โฮม 3 ชั้น ในสไตล์โมเดิร์นรีสอร์ท เน้นในเรื่องของความสบายในการใช้งานด้วยพื้นที่แต่ละส่วนภายในบ้านมีขนาดกว้าง พร้อมให้ความสำคัญในเรื่องของความโปร่งสบายจากเพดานบ้านที่สูงกว่า 3 เมตร และช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ
อีกจุดที่สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของวัสดุที่ทางโครงการให้ จัดว่าเป็นเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น อย่างเช่นบานเลื่อนต่างๆใช้บานอลูมิเนียมเคลือบผิวด้วยสีซาฮาร่า ที่นิยมใช้ในโครงการ Hi-end เท่านั้น, กระจกหนาพิเศษช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก, พื้นชั้นล่างปูแกรนิตโต้แบบพิเศษ, ชั้น 2-3 ปูพื้นไวนิลคล๊ิกล็อค ที่ทนทานไม่ยืดหรือหดตัว, กำแพงบ้านแบบ Double Wall หมดปัญหาเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน, ห้องน้ำออกแบบพิเศษให้มีช่องแสงที่หลังคาส่งผ่านมายังห้องน้ำทั้งชั้น 2 และ 3 ให้ความสว่างโปร่ง และถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น และยังมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ยังไม่ได้กล่าวเช่นอุปกรณ์ในห้องน้ำ หลอดไฟ, วงกบ, ประตู และบันได ที่แต่ละจุดล้วนใช้วัสดุเกรดที่อยู่เหนือกว่าท้องตลาดทั้งสิ้น และเกือบทั้งหมดมาจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถืออย่าง SCG
::: คะแนน :::
ทำเลที่ตั้งโครงการ |
8.0 |
ทำเลเงียบสงบ ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ |
การเดินทาง ใช้รถ |
8.0 |
เชื่อมต่อถนนใกญ่ได้หลายเส้นทั้ง ลาดพร้าว, เลียบด่วน, เกษตร-นวมินทร์, รัชดาภิเษก และพหลโยธิน ใกล้ทางด่วนรามอินทรา |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ |
7.5 |
ในอนาคตมีรถไฟฟ้าในระยะใช้งานได้จริงถึง 4 สาย ล้อมรอบโครงการ |
บ้านและวัสดุ |
8.5 |
พื้นที่ใช้สอยมาก เน้นพื้นที่ใช้งานในแต่ละส่วน วัสดุเกรด Hi-end |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
n/a |
|
ความคุ้มค่ากับราคา |
8.0 |
ทำเลเดินทางสะดวก ใกล้ห้าง ใกล้ทางด่วน ตัวบ้านคุณภาพสูงใส่ใจในทุกรายละเอียด |
คะแนนรวมเฉลี่ย |
8.0 |
ดีมาก |
สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 096-838-4194
Website : http://www.tcr-estate.com |
|